บทความ

GUCCI

รูปภาพ
   กุชชี่ ( อิตาลี : Gucci) เป็นบริษัทสินค้าแบรนด์เนมของ อิตาลี แบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ในเครือของPPRปี 1921 "กุชชิโอ กุชชี" (Guccio Gucci) ก่อตั้งกิจการ Gucci โดยเริ่มต้นจากการที่กุชชีเริ่มทำงานในโรงแรมซาวอยที่กรุง ลอนดอน กุชชี่หลงใหลความสวยงามของกระเป๋าเดินทางที่พบเห็นอยู่ทุกวัน จนในที่สุดตัดสินใจกลับไปยังบ้านเกิดที่ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เปิดร้านค้าและผลิตเครื่องหนังของตนเอง เมื่อกิจการตกถึงมือรุ่นลูกคือ "อัลโด กุชชี" (Aldo Gucci) สินค้าภายใต้ชื่อ Gucci ก็มีจำหน่ายไปทั่วโลก อัลโดเป็นผู้ตัดสินใจเปิดร้านกุชชีแห่งที่สองในกรุงโรมในช่วงทศวรรษ 1950เมื่อกิจการตกทอดถึงรุ่นที่สาม "เปาโล กุชชี" (Paolo Gucci) ซึ่งเป็นบุตรชายของอัลโดก็มีแนวทางธุรกิจของตนเอง เขาต้องการขยายไลน์สินค้าราคาไม่แพงนักเพื่อจับลูกค้ากลุ่มหนุ่มสาว และมีแผนเปิดร้านใหม่อีกแห่งหนึ่ง แต่แผนดังกล่าวถูกคัดค้านอย่างเต็มที่จนทำให้เกิดความตึงเครียดในครอบครัวกุชชี่ เปาโลพยายามดิ้นรนจนสามารถสร้างไลน์สินค้า PG ตามชื่อของเขาได้สำเร็จ แต่เมื่ออัลโดพ่อของเขารู้ข่าว ก็ถึงกับไล่เปาโลออกจาก...

COACH

รูปภาพ
โค้ช    ปี คศ. 1946  Miles & Lillian Cahn เข้าร่วมกับ COACH โดย Lillian และ Cahn  ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจการผลิตกระเป๋าหนังอยู่แล้ว และมีความรู้เกี่ยวกับ leatherworks และธุรกิจเครื่องหนังเป็นอย่างดีได้ตัดสินใจ take over COACH และทำหน้าที่ดูแลกิจการทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวในปี คศ. 1950 เป็นต้นมา ระหว่างช่วงหลายปีแรกๆ นั้น Cahn สังเกตเห็นว่า หนังที่ใช้ผลิตถุงมือเบสบอลนั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่น และคุณภาพที่ดีมากๆ เมื่อสวมใส่และใช้งาน หนังประเภทนี้จะมีความอ่อนนุ่มและสบายมากขึ้น  เขาจึงเริ่มมีความพยายามที่จะลอกเลียนแบบการผลิตเครื่องหนังให้มีความแข็งแรงมากขึ้น มีความอ่อนนุ่มเมื่อสัมผัสมากขึ้น และยังยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย พร้อมทั้งมากับการใช้โทนสีที่เด่นมากขึ้น เนื่องจากหนังประเภทนี้สามารถดูดซับสีได้เป็นอย่างดีทีเดียว  ภรรยาของ Cahn ได้เสนอแนวคิดการผลิตกระเป๋าหนังสำหรับสตรีเพื่อการขายแบบ Low-Margin ด้วย ซึ่งทำให้ขณะนั้นกระเป๋าหนังวัวเริ่มฮ๊อตฮิตมากขึ้นอย่างรวมเร็ว ในปี 1961 เขาได้ซื้อหุ้ขของบริษัท 1961–1974: Bonnie Cashin designs for Coach (ปี 1961-1974  Bo...

LOUIS VITTON

หลุยส์วิตตองมาย์ตีเยร์ ( ฝรั่งเศส : Louis Vuitton Malletier) หรือมักเรียกว่า หลุยส์วิตตอง (Louis Vuitton) และย่อว่า แอลวี (LV) เป็นบริษัทเครื่องแต่งกายตามสมัยนิยมซึ่งนายหลุยส์ วิตตอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1854 และเป็นเจ้าของยี่ห้อ หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton ลุยวิตตง ) อักษรย่อแอลวีดังกล่าวปรากฏบนผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัทซึ่งมีตั้งแต่กระเป๋าหรูหรา สินค้าทำจากหนังสัตว์ ไปจนถึงสินค้าพร้อมใส่ รองเท้า นาฬิกา เครื่องทองของประดับ แว่นตา และหนังสือ ปัจจุบัน ลุยวิตตงเป็นบริษัทด้านเครื่องแต่งกายตามสมัยนิยมชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก ผลิตและขายสินค้าของตนเองทางร้านที่ตนเป็นเจ้าของ ผ่านห้างสรรพสินค้า และผ่านระบบ อี-คอมเมิร์ซ [4] [5] นอกจากนี้ ยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง ยังได้รับการขนานนามว่ามีราคาแพงที่สุดติดต่อกันหกปี (ค.ศ. 2006 ถึง 2012) ด้วยหลุยส์ วิตตอง ก่อตั้งโดย "หลุยส์ วิตตอง" ในปี ค.ศ.1854 ใน กรุงปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส [7] โดยปี ค.ศ.1885 บริษัท ได้เปิดร้านสาขาแรกใน กรุงลอนดอน จากที่มีการเลียนแบบอย่างต่อเนื่องของหลุยส์ วิตตองแล้ว วิตตองจึงสร้างรูปแบบใหม่ คือผ้าใบดามิเยร์ ในปี ค.ศ.18...

NANYANG

รูปภาพ
นันยาง ราวพุทธศักราช 2500 เพียรศักดิ์ ซอโสตถิกุล บุตรชายคนโตของวิชัย ซอโสตถิกุล กลับมาจากประเทศอังกฤษพร้อมกับความรักกีฬา โดยเฉพาะแบดมินตัน จึงต้องการออกแบบและผลิตรองเท้านันยางรุ่นใหม่ ให้เหมาะกับการเล่นแบดมินตัน จึงได้ผลิตรองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ รุ่น 205 S ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น 205 แต่มี พื้นสีเขียว ซึ่งนับเป็นสีที่แปลกมากในขณะนั้น ด้วยเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการแบดมินตันไทย ซึ่งภายหลังได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ทำให้รองเท้านันยางรุ่น 205S ที่เพียรศักดิ์ออกแบบ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักแบดฯโดยไม่ได้คาดว่า รองเท้าพื้นเขียวนี้จะไปอยู่ในใจของหมู่นักเรียนไทยในไม่กี่ปีต่อมาด้วยความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรอปกับการขยายตลาดของสินค้านันยาง ส่งผลให้บริษัทฯ ตัดสินใจลงทุนขยายและพัฒนาฐานการผลิตไปยังศูนย์การผลิตแห่งใหม่ที่ทันสมัย ห่างจากโรงงานเดิมประมาณ 3 กิโลเมตร (บริเวณเขตบางแคในปัจจุบัน) และก่อตั้งบริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัดขึ้น เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2512 อ้างอิง 1.https://board.postjung.com/990514?hl           ...

FILA

รูปภาพ
ฟีลา ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1909 โดยพี่น้องตระกูลฟีลาที่เมือง เบลลา , แคว้นปีเอมอนเต , ประเทศอิตาลี โดยเริ่มต้นจากการผลิตเสื้อผ้าให้แก่ผู้คนที่อาศัยตามแถบ เทือกเขาแอลป์ โดยผลิตภัณฑ์หลักในช่วงแรกของบริษัทคือ ชุดชั้นใน ก่อนจะเปลี่ยนมาผลิตชุดกีฬาใน ช่วงทศวรรษที่ 70 เริ่มจากการได้รับการรับรองจาก บิยอร์น บอร์ก นักเทนนิสชื่อดังชาวสวีเดน และได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อได้เข้าไปสู่แวดวงผลิตภัณฑ์กีฬาอย่างเต็มตัวเดิมที ฟีลา เป็นตราสินค้าของบริษัทชอปโฮลดิงปาร์เตซิปาซีโอนี และขายให้กับ บริษัทกองทุนป้องกันความเสี่ยงสหรัฐเซอร์เบอรัสบริหารเงินทุน ในปี ค.ศ. 2003 หลังจากที่ทางบริษัทประสบกับภาวะกดดันด้านการเงิน เซอร์เบอรัสเป็นเจ้าของฟิลา ผ่าน บริษัทโฮลดิงกีฬาต่างประเทศซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจฟีลาทั่วทุกมุมโลกด้วยข้อยกเว้น ฟีลาเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทที่แยกออกมาดำเนินกิจกรรมต่างหากภายใต้ตราสินค้าเดียวกันในเดือนมกราคม ค.ศ. 2007 บริษัทฟีลาอิตาลีและทั่วโลก ได้ถูกซื้อกิจการทั้งหมดจากฟีลาเกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มทุนของเอสบีไอ ซึ่งทำให้ฟีลากลายเป็นบริษัทสินค้ากีฬาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ในปี ค.ศ. 2009 แอน...

GRANDSPORT GROUP

รูปภาพ
แกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป    เป็นบริษัทผลิตและจำหน่าย เสื้อผ้าและ เครื่องใช้กีฬา ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2504 โดยเริ่มจากการเป็นร้านค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาและเครื่องใช้กีฬาปี พ.ศ. 2504 นายกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม อดีต นักบาสเกตบอล ก่อตั้งกิจการห้องแถวเล็กๆ ในย่าน วงเวียน 22 กรกฎาคม จำหน่าย เสื้อผ้ากีฬา และ อุปกรณ์กีฬา ต่อมาปี พ.ศ. 2512 แกรนด์สปอร์ตได้เป็นบริษัทเครื่องกีฬาไทยบริษัทแรกที่ติดตรา "Made in Thailand" บนเสื้อผ้ากีฬา เพื่อให้ชื่อเสียงของสินค้าเป็นที่รู้จัก ปี พ.ศ. 2514 แกรนด์สปอร์ต ได้รับเลือกให้เป็นชุดกีฬาใน การแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ขยายการส่งออกสู่ ประเทศฮ่องกง และ ประเทศบาห์เรน และได้ก่อตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นภายในองค์กร เป็นบริษัทแรกใน อุตสาหกรรมเครื่องกีฬา ของคน ไทย เมื่อถึงปี พ.ศ. 2525 ได้ก่อตั้งบริษัท แกรนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทในเครือ เพื่อทำการตลาดอุปกรณ์กีฬาในประเทศ และเมื่อปี พ.ศ. 2527 ได้รับรางวัลสินค้าไทยดีเด่นจาก สมาคมนิยมไทย รับพระราชทานโล่จาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ...